มติชนออนไลน์
หน้าแรก นิวส์มอนิเตอร์
นิวส์มอนิเตอร์
“ชัชชาติ”แนะเชียงใหม่จุดเปลี่ยน-ประตูสู่โอกาส ไม่ทิ้งสมาร์ทฟาร์มมิ่ง ดันดิจิทัลวัลเลย์
วันที่ 15 ธันวาคม 2560 - 21:20 น.
59
SHARES
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ที่ห้องลานนา บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา จ.เชียงใหม่ หนังสือพิมพ์ ‘ประชาชาติธุรกิจ’ จัดสัมมนา” เชียงใหม่ 2018…จุดเปลี่ยน ประตูสู่โอกาส” มีนายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา
โดย รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘เตือนคุณล่วงหน้า พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง’ ว่า วันนี้ที่จะพูดใน 3 เรื่อง คือ อนาคต เทคโนโลยี การรับมือกับอนาคตอย่างไร ซึ่งเรื่องแรกอนาคตนั้นอยู่ที่นี่แล้วแต่ยังกระจายไปไม่ทั่วถึง ตามความหายของวิลเเลียม กิปสันส์ สำหรับกรุงเทพรถ EV หรือรถยนต์ไฟ มาแน่ แต่เชียงใหม่ล้ำกว่าเพราะมีรถตุ๊กตุ๊ก พลังงานไฟฟ้าใช้ 450 คัน ดูแลเรื่องความสะอาดไร้เสียง สุขภาพมาแน่และเชียงใหม่คือหนึ่งในเมืองที่อยู่แถวหน้า คนใส่นาฬิกาสุขภาพ โรเล็กซ์ ราคาแพงไม่เอาแล้ว ตามด้วยอาหาร ผัก 5 สี ผักสุขภาพปลอดสารพิษ และการนำเครื่องมือมาใช้แทนคนในสนามบิน ไม่มีวันหยุด พนักงานเคาน์เตอร์หมดไป เครื่องมีประสิทธิภาพมากกว่า แล้วมนุษย์จะมีงานทำหรือไม่ บอกเลยว่างานเยอะกว่าเดิม
รศ.ดร.ชัชชาติกล่าวว่า ล่าสุดเชียงใหม่มีสายการบินกาตาร์มาเปิดเชียงใหม่ น่าตกใจเพราะดีที่สุดในโลก เชียงใหม่มีดีแน่ เตรียมตัวพร้อมหรือยังในการรองรับเพราะยุโรปเต็มลำนะ กรุงเทพฯ ในร้าน 7-11 มีอาลีเพย์ วีแช็ทหมดแล้ว เชียงใหม่ก็มีแล้วตั้งแต่สนามบิน ร้านค้า รถแดง การแต่งงานของจีนใส่เงินผ่าน QR Code ขอทานก็ยังมี คนจีนมาฝึกงานพูดไทยคล่องเขาเตรียมคนไว้หมดแล้ว เรียนไทยตั้งแต่มัธยมฯ เด็กไทยต้องแข่งขันพร้อมหรือยัง ช้อปปิ้งออนไลน์หนีไม่พ้น ปัจจุบันโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเดลิเวอร์รี่มาแน่นอน
รศ.ดร.ชัชชาติกล่าวว่า บริษัทเคอรี่ธุรกิจพุ่งขึ้นเรื่อยๆ กำไรเพิ่มจาก 19 ล้าน เป็น 38 ล้าน ธุรกิจอาหารก็ต้องพร้อมส่งเดลิเวอร์รี่ อาหารอนาคตโฟเซ่นฟู็ด เด็กชินกับการซื้อใน 7-11 ไม่ไปซื้อร้านข้าวแกงข้างทางแล้ว ทุกวันนี้ป้ายรถเมล์เชียงใหม่ร้าง เพราะคนไม่ชอบการเดิน แต่รถไฟรางเบาจะไปได้หรือเปล่า ต้องคิดแบบใหม่ ส่วนป้ายโฆษณาว่างเต็มไปหมด อนาคตหมด เปลี่ยนไปอยู่ในออนไลน์ คนผ่านเข้าไปดูมหาศาล พลังของเทคโนโลยี โดยเฉพาะสกุลเงิน Bitcoins ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รศ.ดร.ชัชชาติกล่าวว่า ส่วนเรื่องเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับเชียงใหม่ ดูจากโทรศัพท์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังมีมือถือ 10 ปีเปลี่ยนเร็วมาก เพราะการ์ดอน มัวร์ นักวิทยาศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้ว่า ชิปมีพลังในการคำนวณมากขึ้นในทุก 2 ปี ปัจจุบันเพิ่มเป็น 8 ล้านเท่า ในขณะที่ราคาถูกลงด้วย คนไม่ได้ฉลาดขึ้นแต่เครื่องมือฉลาดมากขึ้น ช่วงหลังใครเกาะเทคโนโลยีทันจะอยู่ได้ แล้วคนยังมีความหมายอยู่หรือไม่ ต้องอัพเดทตัวเองตลอดเวลา
“พูดถึงเรื่องรถแดงเชียงใหม่ยังอยู่ตามวัฒนธรรม เรียกแล้วสามารถเพิ่มระยะไปเองได้โดยเราไม่อยากไป ต้องนำเทคโนโยลีเข้ามาช่วยให้เร็วที่สุด ส่วนการคำนวณบนเมฆ หรือ Cloud compuing เชื่อว่าทุกคนใช้อยู่ เมื่อทุกอย่างเชื่อมต่อกันก็ใช้ได้แม้จะไม่อยู่ในเครื่องมือถือของเราก็ตาม แชร์ข้อมูลกันได้ ระยะทางไม่มีอุปสรรค ปัจจุบันมีคนทำแล้วในเชียงใหม่ดูแลลูกค้าทั้งหมดผ่าน Cloud ต้นทุนไม่แพง ตามด้วย Big Data ข้อมูลในโลกเปลี่ยนไปในอินเตอร์เน็ต เพราะมีปริมาณมาก ทั้งหนัง ภาพ ความเร็วสูง เวลาไม่จำกัด ลดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง เรียกว่าเกือบฟรีและเกือบทันทีผ่านเครือข่าย เป็นดิจิทัล 01 01 มีตัวอย่างเป็นบริษัทในเชียงใหม่ CGSCAPE แต่ขายของทั้งหมดไปทั่วโลก” รศ.ดร.ชัชชาติกล่าว
รศ.ดร.ชัชชาติกล่าวว่า ส่วน Platform Revolution รูปแบบนี้ค้าขายได้ง่าย มีผู้ซื้อผู้ผลิต ขยายได้เร็ว เข้าออกง่ายทั่วโลก มีผลตอบรับเร็ว ห้างสรรพสินค้าทำไม่ได้ ที่จะอยู่ในห้างได้คือสินค้าที่นิยมสูง ในขณะที่ในอาลีบาบามีสินค้าชนิดเดียวแต่มีแสนยี่ห้อให้เลือก ห้องเช่าในเชียงใหม่มาให้เลือกเต็มไปหมดใน Platform ดูราคา รูป คนทั่วโลกเห็นพร้อมกันด้วยพลัง Platform นี่คือธุรกิจที่ทำให้คนมีที่ยืน หากดีจริง ซึ่งทั้งหมดหนีไม่พ้นคุณภาพเป็นหัวใจ งานไม่ได้หายไป แต่เปลี่ยนรูปแบบไป เทคโนโลยีทำให้มีงานเพิ่ม แรงงานต้องปรับตัวให้ทัน โฆษณาร่วง แต่ QR Code เพิ่ม
“แล้วการรับมืออนาคตจะทำอย่างไร มีงานทำอยู่ไหม มีกฎ 3 ข้อ คือ 1.อย่ามีหนี้เกินรายได้ และทำให้ดีที่สุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เชียงใหม่ 4.0 มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะเชียงใหม่มีโครงสร้างที่ดี การเกษตรดีทิ้งไม่ได้ ทำสมาร์ทฟาร์มมิ่ง จะทำอย่างไรให้ดูที่คน 2.อย่าเพิ่งตาย ดูแลสุขภาพให้ดี 3.อย่าหยุดหาความรู้ เพราะโลกเปลี่ยน ไปดูข้อมูลต่างๆ อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง คิดหาสิ่งที่ดีขึ้น บริหารความเสี่ยง มีประสบการณ์กว้างและรู้ลึก รู้เรื่องสังคม ตัดสินใจจากหลายมิติ มีความคิดสร้างสรรค์ อย่าหยุดอยู่กับที่ อ่านหนังสือให้มากนำมาประยุกต์ใช้ ทำธุรกิจต้องเข้าใจผู้ใช้ หาโจทย์ คำตอบ ทดสอบ จะพบสิ่งที่เหมาะสม อย่ากลัวเทคโนโลยี แต่ไม่เห่อ ขอให้เข้าใจและเลือกใช้ เริ่มจากลูกค้าสำคัญว่าเข้าใจเทคโนโลยี ที่น่าสนใจคือ แอร์เอเชีย ที่ปรับเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หรือการทำข้าวต้มมัด จะทำอย่างไรเก็บให้ได้ 1 ปี ไม่มีสารกันบูด รสชาติเหมือนเดิม ก็ต้องไปค้นหาข้าวที่ดี ปัจจุบันขายได้ดี มองสิ่งใกล้ตัวเราดึงมาต่อยอด ทดสอบสูตรเป็นปี จนได้ข้าวต้มมัดที่อร่อยเหมือนเดิม นี่คือตัวอย่างเทคโนโลยีสร้างงาน”รศ.ดร.ชัชชาติกล่าว
รศ.ดร.ชัชชาติกล่าวว่า เมืองเชียงใหม่จะเป็นอย่างไร ซุปเปอร์ไฮเวย์ นักท่องเที่ยวดีกับเราจริงไหม เมืองที่จะพัฒนาได้จะต้องสามารถดึงดูคนเก่งและคนมีความสามารถมาที่เมืองนั้น ต้องไม่ขาดทรัพยากรบุคคลที่ดี เพราะเชียงใหม่มีจุดแข็งเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดี รักเมืองเชียงใหม่ คนเก่งที่ไม่สร้างปัญหาให้กับเมือง อนาคตต้องดูแลเกษตรกร สมาร์ทฟาร์มมิ่งทิ้งไม่ได้ Local Product ขอแค่มีคุณภาพ มีดิจิทัลวัลเลย์ ใช้อินเตอร์เน็ตทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อนาคตเชียงใหม่ขึ้นอยู่ที่คน ไม่น่าจะขึ้นอยู่ที่รถไฟความเร็วสูง สนามบิน เพราะเชียงใหม่ค่าครองชีพต่ำ แต่มีจุดเสียในสายตาชาวต่างชาติคือ จราจรติดขัด การดูแลสุขภาพยังไม่ดี ยังไม่รู้สึกปลอดภัย ยกตัวอย่าง คลองแม่ข่า สิ่งแวดล้อมเรายังดี รีบแก้ปัญหาน้ำเน่า ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อนาคตเชียงใหม่ยังไปได้ไกล
https://www.matichon.co.th/news/768335
No comments:
Post a Comment